ข่าวสาร & โปรโมชั่น

นำเข้าสินค้าจากจีน ตามกฎหมายนั้นได้ระบุให้ สินค้าบางประเภท ต้องยื่นคำขอนำเข้า ณ ด่านอาหารและยา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ก่อนนำเข้าทุกครั้ง เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ปลอดภัย 

 

เนื่องจากสินค้าบางประเภท เป็นสินค้าที่ถูกกำหนดมาอย่างเข้มงวด และการมีหนังสือรับรองการอนุญาตนำเข้าจาก อย. จะเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า สินค้านั้นได้ผ่านขั้นตอนการตรวจสอบมาอย่างรัดกุม และสามารถดำเนินการนำเข้าได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

แล้วมีสินค้าประเภทใดบ้าง ที่ผู้นำเข้าต้องขอใบอนุญาต อย. ก่อนการนำเข้าสินค้าจากจีน Kerry Cargo มีคำตอบมาเฉลยว่ามีสินค้าประเภทใดบ้าง และมีขั้นตอนในการดำเนินการขอใบอนุญาตจาก อย. อย่างไร?

 

เอกสารที่ต้องเตรียมยื่นคำขอต่อ อย. เพื่อนำเข้าอย่างถูกกฎหมาย  

  • ผู้นำเข้าต้องยื่น แบบคำขออนุญาตนำเข้าสินค้าชนิดนั้นๆ โดยสามารถคลิกและพิมพ์แบบคำขอได้จาก กองด่านอาหารและยา 
  • เตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เช่น หนังสือชี้แจงวัตถุประสงค์การนำเข้า
  • เตรียมบัญชีราคาสินค้า (Invoice) หรือใบตราส่งสินค้า (Air Waybill/ Bill of Lading/ Notification to Collect International Postal Items)
  • เตรียมสำเนาใบทะเบียนพาณิชย์ หรือสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัทหรือ ห้างหุ้นส่วนแสดงวัตถุประสงค์ และผู้มีอำนาจลงนามแทนนิติบุคคล ซึ่งออกมาแล้วไม่เกิน 6 เดือน
  • กรณีดำเนินการแทน ให้แนบหนังสือมอบอำนาจให้ดำเนินการแทน ติดอากรแสตมป์ 10 บาท พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ
  • เอกสารเพิ่มเติมประกอบการยื่นขอ อาจมีความแตกต่างกันตามประเภทของสินค้า
  • เอกสารทุกใบต้องลงลายมือชื่อจริงทุกฉบับ
  • สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สายด่วน อย. โทร. 1556 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 8.30-16.30 น.

*กรณีนำเข้าเครื่องสำอาง ต้องมีสถานที่เก็บสินค้า เอกสารของผู้ผลิต เช่น ส่วนผสม และใบรับรองต่างๆ ก่อนไปขออนุญาต อย.

ขั้นตอนเมื่อได้ใบอนุญาต อย.

  • หลังจากได้รับใบอนุญาต อย. แล้ว ผู้นำเข้าต้องจดทะเบียนเป็นผู้นำเข้าสินค้าจากจีน/หรือมอบหมายให้บริษัทชิปปิ้งขึ้นทะเบียนเป็นผู้นำเข้าแทน หลังจากนั้น แสดงหลักฐาน ณ ด่านตรวจสินค้า เพื่อจัดการให้ผ่านด่าน อย. ก่อนจะไปตรวจปล่อยสินค้ากับนายตรวจฯ ได้
  • การผ่านด่านตรวจสินค้านี้ ผู้นำเข้าต้องนำสินค้าตัวจริงกับใบอนุญาตไปยื่นที่ด่านฯ หากสินค้ากับใบอนุญาตตรงกัน ก็สามารถผ่านด่านฯ ได้ฉลุย อย่างไรก็ตาม ปัญหาส่วนใหญ่ที่พบของการผ่านด่าน อย. คือ สินค้าไม่ตรงกับการขออนุญาตไว้ เช่น ฉลากไม่ตรง ยี่ห้อสินค้าไม่ตรง ตลอดจนการระบุข้อมูลผิดพลาด ดังนั้น สิ่งที่ต้องระวังคือ วัตถุประสงค์ของการนำเข้าสินค้ากับการกรอกข้อมูล ควรจะตรงกัน อาทิ
  • กรณีนำเข้าเครื่องมือแพทย์ เพื่อใช้เฉพาะตัว ต้องมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เฉพาะตัวเท่านั้น ไม่นำผลิตภัณฑ์ไปจำหน่าย และจะต้องแสดงรายละเอียดเครื่องมือแพทย์ที่นำเข้า รวมทั้งแสดงใบรับรองแพทย์ ที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐ เพื่อรับรองว่าผู้นำเข้าจำเป็นต้องใช้เครื่องมือแพทย์ดังกล่าว
  • หรือกรณีการนำเข้าผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง เพื่อใช้เป็นตัวอย่างในการพิจารณาสั่งซื้อ หรือเพื่อใช้เฉพาะตัว จะต้องรับรองว่าจะไม่นำผลิตภัณฑ์ไปจำหน่าย จำกัดจำนวนนำเข้าตามหลักเกณฑ์
  • หรือกรณีนำเข้าผลิตภัณฑ์อาหาร เพื่อบริโภคเอง จะต้องมีจำนวนในการบริโภค ไม่เกิน 30 วัน และมีวัตถุประสงค์การนำเข้าเพื่อการบริโภคเท่านั้น ไม่นำผลิตภัณฑ์ไปจำหน่าย เป็นต้น
  • หากผ่านด่าน อย. มาได้แล้ว ก็เท่ากับว่าสินค้าที่นำเข้าจากจีนนั้น ตรงตามที่จดแจ้งไว้อย่างถูกต้อง เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจปล่อยตามปกติ

Kerry Cargo ให้บริการนำเข้าสินค้าจากจีนมาไทยแบบถูกกฎหมาย สามารถนำเข้าสินค้าที่มีใบอนุญาตจาก อย.ได้ โดยผู้นำเข้าต้องติดต่อขอใบอนุญาตจาก อย. ด้วยตนเอง หลังจากนั้น จึงจะสามารถดำเนินพิธีการศุลกากรนำเข้าได้ตามขั้นตอนต่อไป

ข้อมูล : http://pca.fda.moph.go.th/public_media_detail.php?id=2&cat=50&content_id=699

นำเข้าสินค้าจากจีน สำหรับผู้ประกอบการมือใหม่ อาจเป็นเรื่องเสี่ยงที่คุณจะลองผิดลองถูกในการเริ่มต้นนำเข้าด้วยตนเอง

ยกเว้นเสียแต่คุณจะได้ที่ปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญและเป็นมืออาชีพในการนำเข้าสินค้าจากจีนโดยตรง ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยง เพิ่มความมั่นใจ และหากได้ชิปปิ้งที่ดี ก็จะช่วยประหยัดต้นทุนนำเข้า ทำให้เพิ่มกำไรได้มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม พื้นฐานของการทำธุรกิจนำเข้าสินค้าจากจีนนั้น หลักๆ คือ การควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายในการนำเข้าให้น้อยที่สุด เพื่อทำกำไรได้มากที่สุด และต่อไปนี้คือ 7 วิธีเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อลดต้นทุนการนำเข้า ที่ผู้ประกอบการมือใหม่ควรรู้

1. ตั้งเป้าหมาย เพื่อคำนวณต้นทุน ลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มยอดขาย

หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการพัฒนาธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ คือ การกำหนดเป้าหมายให้ชัด เช่นตั้งเป้าหมายไว้ว่า จะลดต้นทุนการนำเข้าโดยคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ที่แน่นอน มีบริษัทจำนวนไม่น้อยกลัวการตั้งเป้าหมาย ทำให้การดำเนินธุรกิจไร้ทิศทาง และไม่สามารถมองเห็นภาพที่ชัดเจนได้ในอนาคต โดยเฉพาะธุรกิจนำเข้าและส่งออก เพราะถึงแม้ว่าคุณจะไม่บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่การตั้งเป้าหมายถือเป็นวิธีที่ดีในการประเมินการดำเนินธุรกิจและสร้างกลยุทธ์เพื่อลดอุปสรรคทางการค้าในอนาคต

2. ประเมินความเสี่ยง มองหาที่ปรึกษาหรือผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำแนะนำ

หากคุณเป็นผู้นำเข้าสินค้าจากจีนมือใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์ การมองหา Outsource หรือ Freight Forwarder หรือตัวแทนขนส่งสินค้าที่เป็นมืออาชีพ จะช่วยป้องกันความเสี่ยงจากการถูกหลอก รวมทั้งยังสามารถให้คำปรึกษา คำแนะนำ ช่วยดำเนินการด้านเอกสาร พิธีการนำเข้าที่ถูกต้องกฎหมาย ย่นระยะเวลาไม่ต้องดำเนินการเอง ประหยัดทั้งเวลาและเงิน

3. วิเคราะห์ห่วงโซ่อุปทาน เพื่อปรับปรุงขั้นตอนการทำงานและลดค่าใช้จ่าย

เมื่อดำเนินธุรกิจไปสักระยะ ลองใช้เวลาทบทวนประสิทธิภาพการทำงาน อะไรที่เป็นอุปสรรค และทำให้การทำงานติดขัด หากคุณมีพันธมิตรทางธุรกิจ ควรหารือเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น รวมทั้งหมั่นศึกษาข้อตกลงทางการค้าใหม่ๆกฎหมาย ภาษีนำเข้า ฯลฯ ที่เกี่ยวข้องกับกับธุรกิจ ที่สำคัญ อย่าลืมมองหาวิธีลดต้นทุนในการปฏิบัติงาน เช่น การสั่งซื้อสินค้าปริมาณมากๆ ในคราวเดียว และเลือกใช้บริษัทขนส่งที่มีประสิทธิภาพ ราคาเป็นธรรม

4. สมัครเป็นสมาชิกของสมาคมหรือองค์กรภาครัฐ

การสมัครเป็นสมาชิกขององค์กรการค้าหรือหน่วยงานภาครัฐ ที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้า-ส่งออก ในโครงการต่างๆ จะช่วยให้คุณได้รับสิทธิพิเศษในการอบรมสัมมนา เข้าร่วมกิจกรรม ออกบูธ เพื่อประชาสัมพันธ์แบรนด์และธุรกิจให้เป็นที่รู้จัก ถือเป็นการขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น โดยเฉพาะหากคุณเพิ่งเริ่มต้นทำธุรกิจ การเข้าร่วมเป็นสมาชิกกับหน่วยงาน จะทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักได้เร็วขึ้น

5. ลงทุนด้านเทคโนโลยี ประหยัดเวลา ลดขั้นตอนที่ยุ่งยาก

การนำเข้าสินค้าจากจีนหรือจากต่างประเทศนั้น ทำให้คุณต้องดีลกับคู่ค้าต่างชาติ ซึ่งมีวัฒนธรรมที่แตกต่าง ทั้งด้านกฎหมาย ภาษา ฯลฯ วิธีประหยัดและรวบรัดขั้นตอนการทำงานได้อย่างดีเยี่ยม คือการลงทุนในโปรแกรมซอฟต์แวร์ดีๆ ซึ่งหลายๆ โปรแกรมนั้น ช่วยจัดการด้านเอกสาร ด้านบัญชีที่มีความถูกต้องแม่นยำ ช่วยป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้มากกว่าแบบ Manual

6. เพิ่มปริมาณสินค้านำเข้า สั่งซื้อปริมาณมาก ประหยัดค่าขนส่ง

การสั่งซื้อสินค้าปริมาณมากในคราวเดียว จะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มากกว่าการที่ต้องสั่งซื้อซ้ำๆ รวมถึงการชำระค่าขนส่ง ค่าภาษีนำเข้า และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ซึ่งหากนำเข้าครั้งเดียวก็จะคุ้มค่าและเสียเงินรอบเดียว อย่างไรก็ตาม การสั่งซื้อสินค้าจากร้านค้าในปริมาณมากนั้น ยังช่วยลดต้นทุนของสินค้า เนื่องจากส่วนใหญ่ เมื่อสั่งซื้อมาก ก็ยิ่งได้ราคาถูกลง เช่น การสั่งซื้อจากร้านค้าขายสั่งอย่าง 1688.com

7. ศึกษาข้อมูลของคู่ค้าเพื่อลดความเสี่ยง

ปัจจุบัน ธุรกิจมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดและตลอดเวลา คนที่จะอยู่รอดบนโลกใบนี้คือคนที่มีคลังข้อมูล และคอยอัปเดตข้อมูลรอบตัว รวมทั้งสถานการณ์ความเคลื่อนไหวของคู่แข่งอยู่ตลอด เช่น คู่แข่งมีอะไร คุณก็ควรจะมีเช่นกันและต้องทำให้เหนือกว่า นอกจากนี้ ต้องหมั่นสร้างกระแสอยู่เรื่อยๆ และเป็นผู้นำเทรนด์ใหม่ๆ อยู่เสมอ

  1. เข้าเว็บ TAOBAO.COM
  2. เลือกสินค้าที่ต้องการสั่งซื้อ

เว็บไซต์หาสินค้าออนไลน์ยอดนิยมในจีน และนำเข้าสินค้าจากจีน

เว็บไซต์หาสินค้าออนไลน์ยอดนิยมในจีน และนำเข้าสินค้าจากจีน

หาซี้อสินค้าและนำเข้าสินค้าจากจีน เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เนื่องจากประเทศจีนเป็นแหล่งผลิตสินค้าอันดับใหญ่ของโลก ทำให้ประหยัดต้นทุนการซื้อสินค้า และช่องทางสั่งซื้อมีความสะดวกรวดเร็ว เหมาะแก่คนที่กำลังจะทำธุรกิจขายของ มุ่งหากสินค้าที่ตอบสนองความต้องการของคนได้ง่าย และสามารถทำได้ง่าย ๆ ผ่านเว็บไซต์สั่งซื้อสินค้าออนไลน์จากจีน โดยรวบรวมชื่อเว็บไซต์จีนในการสั่งซื้อและนำเข้าสินค้าจาก เพื่อให้ทุกท่านพิจารณาในการเลือกสั่งซี้อได้สะดวกง่ายขึ้น ดังนี้

 

taobao.com

Taobao หรือที่เรียกกันว่า เถาเป่า เว็บไซต์ Taobao ได้ก่อตั้งเมื่อปี 2003 อยู่ในเครือของ Alibaba Group โดยเป็นเว็บที่รวบรวมแหล่งช็อปปิ้งต่างๆของจีนมารวมกันในเว็บเดียว เว็บไซต์ Taobao เน็นขายปลีกขายออนไลน์แบบ Consumer to Consumer (C2C) ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน ที่เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและผู้ประกอบการที่จะเปิดร้านค้าออนไลน์ โดยมีฐานลูกค้าจากจีน ฮ่องกง ไต้หวัน และประเทศใกล้เคียง และมีจุดเด่นคือเป็นร้านค้าออนไลน์ขายปลีก ที่ไม่มีขั้นต่ำในการสั่งซื้อ และราคาที่ถูกกว่าบ้านเราถึง 30-50% ส่วนเรื่องของคุณภาพของสินค้านั้น ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละร้านค้าเลย

 

tmall.com

Tmall เป็นเว็บไซต์ที่อยู่ในเคลือเดียวกับ Alibaba , Tmall นั้นเดิมทีก็ใช้ชื่อ Taobao และในปี 2012 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Tmall ซึ่งเป็นเว็บซื้อขายออนไลน์แบบ B2C ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน ร้านค้าใน Tmall มีทั้งหมดสามประเภท คือ ร้านค้าแบรนด์ชั้นนำ ร้านค้าตัวแทน และตัวแทนจำหน่ายหรือร้านค้าแฟรนไชส์  การตั้งร้านค้าใน Tmall จำเป็นจะต้องมีบริษัทหรือวงเงินประกันเปิดร้านสูง จึงจะสามารถตั้งร้านได้ ซึ่งทำให้ร้านค้าส่วนใหญ่จะเป็นร้านขายแต่สินค้าที่มีย่อห้อ เป็นสินค้าของแท้ และมีคุณภาพดีเท่านั้น ดังนั้นจึงสามารถรับประกันเรื่องคุณภาพของสินค้าได้ดี  ซึ่งมีความแตกต่างกับร้านค้าใน Taobao นั้นไม่ค่อยมีการกำหนดเงื่อนไขการก่อตั้งร้านค้า จึงทำให้คุณภาพของสินค้า นั้นยากที่จะควบคุม การซื้อของใน Taobao ผู้ซื้อจะต้องอาศัยประสบการณ์เพื่อที่จะหาสินค้าที่ทั้งราคาถูก และคุณภาพดี

 

1668.com

1688 เป็นเว็บที่รวบรวมโรงงานที่อยู่ที่ประเทศจีน โดยเป็นเว็บสั่งของจากจีนแบบขายส่งออนไลน์แบบ (B2B) E-Commerce  คนส่วนใหญ่มักจะสั่งของจากเว็บนี้เพื่อไปขายภายในประเทศในรูปแบบการขายส่ง ตอบสนองความต้องการของผู้ที่ต้องการหาซื้อสินค้าแบบล็อตใหญ่ ราคาถูกมาขาย ซึ่งเป็นเว็บที่ได้รับความนิยมในเรื่องของการนำเข้าสินค้า เพื่อนำมาขายต่อให้กับผู้บริโภคภายในประเทศ และเป็นเว็บไซต์ที่มีการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศมากที่สุด

 

alibaba.com

 

Alibabaเป็นเว็บที่รวบรวมเอาโรงงานจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก ( ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นโรงงานจากจีนเป็นหลัก ) เข้ามาไว้ในเว็บเดียว หมวดหมู่สินค้าต่างๆ มีให้เลือกมากมาย ตามที่เราต้องการจะค้นหา เพื่อสั่งของจากจีน สามารถเข้าเจรจากับผู้ขาย และนำเข้าสินค้าจากจีนได้สะดวกรวดเร็ว เรียกได้ว่า Alibaba เป็นเว็บไซต์ร้านค้าปลีกชั้นนำระดับโลก

 

ทั้งหมดนี้เป็นเว็บไซต์สำหรับสั่งซื้อสินค้าจีน ที่ได้รับความยอดนิยมในปัจจุบัน ที่เรานำมาฝากกันในที่นี้